วันอาทิตย์, 23 กุมภาพันธ์ 2568

เชฟหนุ่มขอนแก่นแรงงานไทยในอิสราเอลขอพักใจและกายก่อนเดินหน้าหางานใหม่ทำ

เชฟหนุ่มขอนแก่นแรงงานไทยในอิสราเอลขอพักใจและกายก่อนเดินหน้าหางานใหม่ทำ เจ้าตัวเผยตัดสินใจบินกลับไทยทันทีหลังเหตุการณ์สงครามเริ่มรุนแรง ยืนยันยังอยากจะหางานที่ต่างประเทศเพราะรายได้ดี

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 19 ต.ค.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนายธนาธิป ทะสา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 333/38 ม.6 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในตำแหน่งพ่อครัว หรือเชฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองชายทะเลทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอล ซึ่งได้เดินทางกลับถึง จ.ขอนแก่นบ้านเกิดหลังเกิดเหตุการณ์สู้รบกันระหว่างกลุ่มกบฎฮามาสกับทหารอิสราเอล โดยเป็นแรงงานไทยชุดแรกที่เดินทางกลับ ด้วยการซื้อตั๋วเครื่องบินพาณิชย์กลับมาเมืองไทยและเดินทางต่อมายังบ้านเกิด ที่.ขอนแก่นทันที


นายธนาธิป หรือน้องนัท กล่าวว่า ได้เดินทางไปทำงานเป็นเชฟที่เมือง HAIFA(ไฮฟา) ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอล เมื่อเดือน เม.ย. 2565 โดยติดต่อทางอีเมลล์สมัครงานด้วยตัวเองโดยหวังว่าะไปทำงานเก็บเงินแล้วกลับมาตั้งตัวที่เมืองไทย โดยก่อนหน้านั้นได้ติดต่อสมัครงานในตำแหน่งเชฟอาหารญี่ปุ่นในประเทศต่างๆ เพราะมีทักษะทางด้านนี้ จนกระทั่งนายจ้างที่อิสราเอลยื่นข้อเสนอมาเป็นที่พอใจจึงตกลงเดินทางไป และใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวเป็นค่าวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบินและอื่นๆ ประมาณร่วมแสนบาท

“เมื่อไปถึงนายจ้างพาไปที่ทำงานซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อ “HASHUSHIYA” อยู่ในย่านชุมชนเมือง ทำงานในตำแหน่งเชฟ ได้ค่าแรงประมาณ 50,000 – 60,000 บาทต่อเดือน ทำงานวันละ 8 – 10 ชั่วโมง มีวันหยุด 2 วัน รายได้ส่วนหนึ่งส่งกลับมาให้พ่อแม่ใช้รายเดือน ส่วนหนึ่งใช้จ่าย และส่วนที่เหลือเก็บออม โดย ตลอดระยะเวลา 1 ปี 5 เดือนที่ทำงานที่นั่นการทำงานราบรื่น รายได้เป็นที่น่าพอใจ ไม่มีเหตุการณ์อะไรทุกอย่างปกติแม้จะทราบมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นเมืองสงคราม จนกระทั่งเมือเช้าวันเสาร์ที่ 7 ต.ค


ที่ผ่านมาได้เดินทางมาทำงานตามปกติ ต่อมาทราบจากนายจ้างว่าเกิดเหตุสู้รบกับทางตอนใต้ของประเทศและลุกลามรุนแรงขึ้น ผ่านไป 2 – 3 วันจึงตัดสินใจขอนายจ้างกลับประเทศไทย เนื่องจากอิสราเอลเป็นเมืองไม่ใหญ่มาก คิดว่าหากเหตุการณ์บานปลายต้องมาถึงเมืองทางตอนเหนือแน่”

น้องนัท กล่าวต่ออีกว่า วันที่ 11 ต.ค.จึงตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยเงินส่วนตัว ทุนทรัพย์ตัวเอง และได้บินกลับไทยเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมาพร้อมกับแรงงานชุดแรก และเดินทางต่อกลับที่ภขอนแก่นทันที เมื่อถึงบ้านรู้สึกอุ่นใจโล่งใจ ขณะนี้ใช้ชีวิตโดยการพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ช่วงเย็นจะออกมาออกกำลังกายเพื่อให้ผ่อนคลาย ถึงตอนนี้ยังไม่คิดว่าจะทำอะไรต่อ ขอพักใจพักกาย ตั้งหลักก่อน เพราะเงินเก็บยังพอมีบ้าง จากนั้นค่อยหางานใหม่ในต่างประเทศ แต่คงไม่ใช่อิสราเอล เพราะหากเกิดสงครามขึ้นมาอีก ตนอาจไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้ และอีกอย่างคือไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วง ซึ่งตนเป็นลูกชายคนเดียวไม่อยากทำให้พ่อแม่เป็นห่วงอีกด้วย

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 dWgJ6WZ.jpeg MAaG61.jpeg MB9x2v.jpeg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ MEnXPR.gif


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจท่องเที่ยวหารือร่วมรัฐ-เอกชน ผ่านศูนย์ TSOC ยกระดับดูเเลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทั่วทั้งภาคอีสาน
คณะนิติฯ มข. นำทัพเครือข่ายนักกฎหมายทั่วอีสาน ถกทางออกปรับปรุงประมวลกฎหมายแพ่งฯให้ทันสมัยรับยุคดิจิทัล
ETDA ร่วมกับภาครัฐและเอกชน เปิดตัว SMEs Growth 2025 พลิกโฉม SMEs ภาคกลาง-ภาคอีสาน สร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยAI และ Digital Transformation ที่ขอนแก่น
จ.สุราษฎร์ธานี ยกทัพสินค้าเด่นที่มีเอกลักษณ์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานีมาให้คนอีสานได้ชม ชิม ชอป แชร์ ที่ขอนแก่น
ขอนแก่น มอบถุงยังชีพแก่ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุและผู้พิการ ตอกย้ำความเป็นคนขอนแก่นไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และกองบุญแห่งการให้
ขอนแก่นพร้อมจัด ISAN Wellness Summit 2025 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพระดับโลกพบผู้นําธุรกิจเวลเนส แสดงนวัตกรรมมูลค่าสูง กว่า 10 ประเทศ