สุโขทัย ….วิทยุทดลองฯ สุโขทัย รอไม่ไหวบุกยื่นหนังสือ แสดงเจตจำนง พร้อมระบายความในใจ ขอให้พรรคเพื่อไทยผลักดันการแก้กฎหมาย ให้ออกอากาศต่อไปได้หลังจากปี 2567 โดยไม่ต้องประมูล วันที่ 12 มีนาคม 2566 ที่เวทีปราศรัย สวนกลางเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายวันชัย พวงเงิน ผู้อำนวยการ สถานีรักยิ้มเรดิโอ 94.00 MHz อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย นำผู้ทดลองออกอากาศใน จ.สุโขทัย ประกอบด้วย นายชูชาติ อุทัยชิต นายบุญปลื้ม หาญณรงค์ นายทัศนะ เจือจาน นางเฉวียง มันทะสุต ยื่นหนังสือให้กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยมี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิชย์ อดีต รมว.กระทรวงมหาดไทย นายนิคม บุญวิเศษ อดีต สส. ร่วมรับมอบด้วย นพ.ชลน่าน หน.พรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า พรรคยินดีต้อนรับพี่น้องวิทยุทุกท่าน สำหรับ ร่าง พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ที่พรรคได้มอบให้ ส.ส.คมเดช ไชยศิวามงคล และคณะยื่นเข้าสภาผู้แทนราษฎรไปนั้น โดยสรุปคือ กำหนดให้มีวิทยุขึ้นมาอีก 1 ประเภท คือ”วิทยุภาคประชาชน” ซี่งเดิมวิทยุ มี 3 ประเภท คือ ประเภทสาธารณะ ประเภทชุมชน และประเภทธุรกิจ สำหรับวิทยุภาคประชาชนที่กำหนดขึ้นมาใหม่นี้ จะรวบรวมเอาสถานีวิทยุที่ออกอากาศอย่างน้อย 500 วัตต์ แต่ไม่เกิน 1,000 วัตต์ ซึ่งก็คือเอาสถานีวิทยุทดลองออกอากาศทุกประเภทในขณะนี้ ให้มาเปลี่ยนเป็นวิทยุภาคประชาชนแทน และห้ามมิให้มีการนำเอาคลื่นความที่นี้ไปประมูล
ส่วนสถานีวิทยุประเภทธุรกิจที่ออกอากาศที่กำลังส่งเกิน 1,000 วัตต์ ก็ให้ดำเนินการไปตามกฎหมายที่ กสทช.ตามเดิม “แม้นว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ จะครบวาระของสภาผู้แทนราษฎร หรือมีการยุบสภา การดำเนินการคาดว่าคงไม่ทันแน่นอน เพราะร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน ที่รัฐบาลโดย นายกรัฐมนตรีจะต้องลงนาม ดังนั้นหากหลังจากการเลือกตั้งเสร็จ พรรคเพื่อไทยก็จะนำร่างกฎหมายนี้กลับเข้าสูสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งแน่นอน” นพ.ชลน่าน กล่าว นายชูชาติ อุทัยชิต หนึ่งในผู้ทดลองออกอากาศ ของ จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า ผู้ทดลองออกอากาศในจังหวัดสุโขทัย ทราบเรื่องการยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงให้พรรคเพื่อไทยมาตลอด พอทราบข่าวว่าจะมีการยื่นหนังสือที่ จ.พิษณุโลก จึงเชิญชวนกันมายื่นหนังสือด้วย เราไม่รอยื่นที่ จ.สุโขทัย เพราะเวลาของพวกเราเหลือน้อยลงทุกวัน และเราเห็นด้วยกับแนวทางที่มีการขับเคลื่อนนี้ หนทางเดียวที่พวกเราจะได้เป็นตัวของตัวเอง มีชื่อปรากฎใน พรบ.กสทช.เป็นตัวจริงเหมือนคลื่นหลัก ไม่ใช่จะมาเป็นผู้ทดลองอยู่อย่างนี้ ก็คือการแก้กฎหมาย และร่างกฎหมายที่พรรคเพื่อไทยเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วนี้ ถือว่าเป็นร่างที่มีความชัดเจนที่สุด ที่จะช่วยเราได้มีใบอนุญาตตัวจริง “ส่วนประเด็นที่มีชาววิทยุหลายคนบอกว่า เราเป็นสื่อ อย่าไปยุ่งกับการเมือง เรื่องนี้ต้องแยกให้ออก ระหว่าง การทำหน้าที่สื่อ กับ การแก้กฎหมาย การทำหน้าที่สื่อนั้นเราต้องนำเสนอข่าวแบบตรงไปตรงมา
หากแม้นแต่พรรคเพื่อไทยทำอะไรไม่ถูกต้อง เราก็ต้องเสนอข่าวไปตามนั้น แต่การแก้กฎหมาย เป็นเรื่องที่เราต้องให้ นักการเมืองเขาแก้ไขให้ เพราเราะไม่สามารถเข้าไปยกมือในสภาได้ ก็ฝากถึงเพื่อนๆวิทยุอีกหลายๆคน อย่าโลกสวยกันอยู่เลยครับ เราจะจบกันในไม่อีกกี่วันข้างหน้านี้ มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยแบบนี้ ก็ขอให้ร่วมด้วยช่วยกันครับ” นายชูชาติ กล่าว
