วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

วิทยุชุมชน เตรียมเฮ สภาฯเดินหน้านำร่างแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฉบับพรรคเพื่อไทย ออกรับฟังความเห็น เพื่อแก้กฎหมายยกเลิกการประมูล

ความคืบหน้าการที่สภาผู้แทนราษฎร เดินหน้านำร่างแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายวรพจน์ ลัภโต ประธานชมรมผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชน เปิดเผยว่า ตามที่ชมรมฯ ได้เดินหน้าขับเคลื่อนการแก้กฎหมาย พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และฉบับที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกเลิกการประมูลคลื่นความถี่ของผู้ทดลองออกอากาศ(วิทยุชุมชน) ประเภทธุรกิจ โดยผ่านทางพรรคเพื่อไทย ซึ่งขณะนั้นเป็นฝ่ายค้าน โดยได้เสนอร่างแก้ไขกฎหมายเข้าสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว แต่เนื่องจากมีการยุบสภาฯก่อน ทำให้ร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าวตกไป แต่ภายหลังการเลือกตั้ง ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ทางชมรมฯ ได้นำสมาชิกเข้ายื่นหนังสือให้พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566 ให้ดำเนินการขับเคลื่อนการแก้กฎหมายต่อให้สำเร็จ โดยมี รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รศ.ดร.อดิศร เพียงเกษ ประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และ สส.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับมอบหนังสือ และต่อมาในวันที่ 12 ตุลาคม 2566 พรรคเพื่อไทยได้มอบให้ รศ.ดร.อดิศร และคณะ ยื่นร่างแก้ไขกฎหมายเข้าสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง


ในร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าวสรุปสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีประเภทวิทยุกระจายเสียงเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ประเภท คือ “วิทยุภาคประชาชน” โดยให้นำผู้ทดลองออกอากาศทั้ง 3 ประเภท จำนวน 3,902 สถานี ที่กำลังออกอากาศด้วยกำลังส่ง 500 วัตต์อยู่ในขณะนี้ เปลี่ยนมาเป็น “วิทยุภาคประชาชน” และไม่ให้นำวิทยุประเภทธุรกิจ ออกประมูล
การรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกระบวนการพิจารณากฎหมายของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นจึงขอเชิญชวนประชาชน และผู้ทดลองออกอากาศซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ โดยสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ที่ เว๊ปไซต์ของ กสทช. หรือ ที่ https://www.parliament.go.th/section77/survey_detail.php?id=328 สำหรับการแสดงความคิดเห็นนั้น ท่านสามารถดำเนินการแสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. – 21 ธ.ค. 2566 และเพื่อให้การแสดงความคิดเห็นเป็นไปอย่างทั่วถึง สนง.เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือไปถึงองค์กร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เชิญชวนประชาชนทั่วไปหรือแจ้งสมาชิกหรือบุคลากรในหน่วยงาน ได้ร่วมแสดงความด้วย


นับว่าเป็นความสำเร็จของผู้ทดลองออกอากาศ ที่ชมรมผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชน ได้ขับเคลื่อนให้มีการแก้กฎหมายจนมาถึงขั้นตอนนี้ เพื่อให้ผู้ทดลองออกอากาศประเภทธุรกิจไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการประมูล และให้ผู้ทดลองออกอากาศทั้ง 3,902 สถานี สามารถออกอากาศต่อไปได้โดยที่ไม่มีรายใดตกหลนหรือหายไป ต้องขอบคุณผู้ทดลองออกอากาศทุกท่านที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนมา และที่สำคัญต้องขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่รับเป็นภาระหลักในการดำเนินการในครั้งนี้ ขอบคุณท่าน ดร.จำนงค์ ไชยมงคล ผู้ยกร่างกฎหมาย ท่าน อดีต สส.คมเดช ไชยศิวามงคล และคณะ ผู้เสนอกฎหมายเข้าสภาครั้งแรก ท่าน สส.อดิศร เพียงเกษ และคณะ ผู้เสนอกฎหมายครั้งที่สอง ท่าน รมต.ว่าการกระทรวงสาธารณะสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต หน.พรรคเพื่อไทย ผู้ให้คำแนะนำและติดตามการทำงานมาโดยตลอด “ การที่ สนง.เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำร่างแก้ไขกฎหมายออกรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการทำงานที่รวดเร็ว และเชื่อว่าการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้ นอกจากพรรคเพื่อไทยในฐานะผู้เสนอกฎหมายแล้ว ยังเชื่อว่าพรรคการเมืองอื่นๆ จะให้การสนับสนุนให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านสภาฯ ทันก่อนสิ้นปี 2567 แน่นอน “ นายวรพจน์ กล่าว

ภาพ-ข่าว/นายวรพจน์ ลัภโต

รายงาน-นายประเสริฐ สุวรรณสิทธิ์

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 dWgJ6WZ.jpeg MAaG61.jpeg MB9x2v.jpeg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ MEnXPR.gif


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ชาวขอนแก่นพร้อมใจรำอวยพรถวาย พระพรหมวชิรดิลก เจริญอายุวัฒนมงคล 79 ปี
นักวิ่งห้ามพลาด! “ขอนแก่นมาราธอน” ฉลอง 20 ปี พร้อมกิจกรรมพิเศษเพียบ!
ข้าวนาปีขอนแก่นปีนี้ให้ผลผลิตดี 10 ไร่ได้ข้าวถึง 5 ตัน แต่ต้นทุนยังคงแพงอยู่วอนรัฐช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาทตามที่ได้ประกาศเอาไว้โดยด่วน
มหกรรมเติมความรู้ต่อความดี ภาคีเครือข่าย ด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม เขตสุขภาพที่ 7
เลือกตั้ง นายก อบจ.ขอนแก่น ระอุ “เสี่ยต้อม” ประกาศท้าดวล “เสี่ยกวง” ท่ามกลางกระแสเปลี่ยน สะพัดทั้งจังหวัด
จังหวัดร้อยเอ็ด จับมือกับ โครงการเรน รณรงค์ไม่เผาตอซัง หากทำได้ดีต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้ดินเพิ่มพูนผลผลิต