“ป๋าชู ขอนแก่น” ลงสมัคร สส.เขต 1 เดียวของไทยสังกัดพรรคสามัญชน ถือฤกษ์ 4 เม.ย.สมัครพร้อมกับระบบบัญชีรายชื่อ มั่นใจปีนี้ เลือกตั้งบัตร 2 ใบ มีลุ้นแน่
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 4 เม.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศาลาประชาคม จ.ขอนแก่น สถานที่ที่ กกต.ขอนแก่น ได้กำหนดให้เป็นสถานที่รับสมัครรับการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ประจำปี 2566 ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 2 ของการรับสมัคร ซึ่งกำหนดให้มีการรับสมัครตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. โดยบรรยากาศโดยทั่วไปเป็นไปอย่างเงียบเหงาแตกต่างจากากรรับสมัครวันแรกไปอย่างสิ้นเชิงโดยมีผู้สมัครจากพรรคการเมืองขนาดเล็ก ทยอยเดินทางมาสมัครและสอบถามระเบียบหรือการติดต่อขอรับเอกสารต่างจาก กกต.ของแต่ละเขตเลือกตั้ง
โดยนายวัชระ สีสาร ผอ.สนง.กกต.จว.ขอนแก่น ยังคงจัดเจ้าหน้าที่รับสมัคร จากทั้ง 11 เขตเลือกตั้งประจำในจุดรับสมัครเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบข้อบังคับตามที่ กกต.กลาง กำหนดอย่างเคร่งครัด
โดยในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เตรียมการอยู่นั้นได้มีนายสุรเดช แก้วกัลยา หรือ “ป๋าชู ขอนแก่น” แกนนำนักเคลื่อนไหวชื่อดัง เดินทางมาสมัครรับการเลือกตั้งในนามพรรคสามัญชน โดยได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆมาทำการสมัครรับการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 4 ท่ามกลางความสนใจจากเจ้าหน้าที่และผู้ที่มาสังเกตุการณ์เนื่องจากเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต คนเดียวของประเทศไทย ในสังกัดพรรคสามัญชน
นายสรุเดช แก้วกัลยา ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคสามัญชน กล่าวว่า การลงสมัครรับการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ของตนเอง โดยครั้งแรกลงสมัครรับการเลือกตั้งในปี 2562 โดยครั้งนั้นอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 3 แต่การสมัครรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้แบ่งเขตใหม่ และได้อยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 4 จึงตัดสินใจลงสมัครและทำงานทางการเมืองอีกครั้ง และได้หมายเลขประจำตัวครั้งนี้คือหมายเลข 16
“พรรคสามัญชนเป็นพรรคตาสี ตาสา เป็นพรรคชาวบ้านที่ทำงานร่วมกันกับประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด กล้านำความจริงมาเปิดเผยและตีแผ่เรื่องราว ในด้านต่างๆดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมจึงอาสาลงสมัคร ส.ส.เขตอีกครั้ง โดยเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขตเพียงคนเดียวของพรรค จากทั้ง 400 เขตทั้งประเทศ และยังถือฤกษ์วันที่ 4 เม.ย
มาสมัครรับการเลือกตั้งพร้อมกันกับ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ที่ทำการเปิดรับสมัคร ที่กรุงเทพฯในวันนี้ด้วย ซึ่งระบบบัญชีรายชื่อนั้นพรรคทำการสมัครรับการเลือกตั้งทั้งหมด 6 คน”
นายสุรเดช กล่าวต่ออีกว่า การเลือกตั้งในปี 2562 พรรคได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนทั้งประเทศ 5,000 กว่าคะแนน แต่การเลือกตังครั้งนี้มีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค ตามวาระการดำรงตำแหน่ง และเป็นการเลือกตั้งที่ใช้บัตร 2 ใบ จึงทำให้ประชาชนสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะเลือกผู้สมัคร ส.ส.คนใด หรือเลือกพรรคการเมืองใด ซึ่งพรรคสามัญชนไม่ได้เพิ่งมาทำงานทางการเมืองแต่ทุกคนลงพื้นที่มาตลอด ประกอบกับงบประม่ณที่มีอยู่อย่างจำกัด การเลือกตั้งครั้งนี้แม้จะเป็นผู้สมัคร แบบเขตคนเดียวของพรรค และคนเดียวเขตเดียวของประเทศ ก็จะทำหน้าที่ให้เต็มที่ที่สุด
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 >