วันอังคาร, 21 พฤษภาคม 2567

“อนุทิน” ยอมรับกินข้าวบ้าน “ลุงป้อม”คุยเรื่องการเมืองจริง พร้อมระบุทำงานด้วยกันไม่มีอะไรขัดแย้งและหวังทำงานร่วมกันต่ออีกสมัย

“อนุทิน” ยอมรับกินข้าวบ้าน “ลุงป้อม”คุยเรื่องการเมืองจริง พร้อมระบุทำงานด้วยกันไม่มีอะไรขัดแย้งและหวังทำงานร่วมกันต่ออีกสมัย สำหรับการยื่นฟ้อง “ชูวิทย์ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

เมื่อเวลา 14.30น. วันที่ 16 มี.ค. 2566 ที่โรงแรมโฆษะ จ. ขอนแก่น นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการชี้แจงหลักเกณฑ์ วิธีการเบิกจ่ายเงินค่าป่วยการ อสม. ผ่านระบบ e-Social welfare และส่งเสริมการใช้แอปพลิเคชั่น Smart อสม. โดยได้มอบนโยบายและให้กำลังใจ อสม. ที่ปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็งพร้อมทั้งแสดงความยินดีที่รัฐบาลได้ปรับขึ้นค่าป่วยการเป็นเดือนละ 2,000 บาท

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า
ภาพทานข้าวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นั้นเป็นเพราะ เราทำงานด้วยกันมา 4 ปี เดี๋ยวจะมีการเลือกตั้งที่จะมาถึง พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำหลักของรัฐบาลและตนเองก็เป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล

“เราทุกคนมีความเคารพนับถือท่านจริงๆไปรับประทานอาหารบ้านท่านปีละ 4-5 ครั้งอยู่แล้ว ครั้งนี้ถือว่าใกล้ครบวาระเลยชวนกันไปขออาหารกลางวันท่านซักมื้อ ท่านก็อนุญาตให้มา การไปครั้งนี้คุยเรื่องการเมืองแน่นอนไม่ได้คุยเรื่องอื่นหรอก ท่านก็ถามเรามีความคิดเห็นอย่างไร จะทำอย่างไรต่อไปในการจะสร้างความร่วมมือกันเพื่อให้เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองนั้นคือวัตถุประสงค์ เราร่วมมือกันมา 4 ปีแล้ว ของพรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทยร่วมงานกันมาถ้าไม่มีอะไรขัดแย้งกันก็มีโอกาสสูงที่ร่วมงานกันต่อไปทำให้เป็นปึกแผ่นของรัฐบาลเพื่อให้การเมืองมีเสถียรภาพทำให้ภารกิจต่างๆที่ร่วมกันมา 4 ปี ถ้ายังสามารถร่วมงานกันได้อยู่ก็จะสามารถพลัดดันและสานต่อได้ในอนาคต ก็ต้องพูดอะไรเผื่อไว้ก่อน”

นายอนุทิน กล่าวต่ออีกว่า สำหระยกรณีที่ พ.ต.ท.กิตติกานต์ หรือ สารวัตรกานต์ อายุ 51 ปี ตำแหน่งสารวัตร สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล คลุ้มคลั่งกราดยิง เหตุเกิดภายในบ้านพักบ้านมั่นคง เขตสายไหม กรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ปิดล้อมกว่า 28 ชม. ก่อนจะสามารถยุติเหตุการณ์ดังกล่าวได้ โดยสารวัตรกานต์ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณขา ถูกนำส่งโรงพยาบาลภูมิพล ก่อนนำตัวเข้าห้องไอซียู และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งช่วงหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ได้มีการนำอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน บินเข้าไปถ่ายภาพภายในห้องพักของสารวัตรกานต์ ทำให้ปรากฏภาพของกองบุหรี่และวัตถุสีฟ้าคล้ายบ้องกัญชา จนถูกโยงว่า ผู้ก่อเหตุมีการใช้กัญชาจนเกิดอาการทางประสาท รวมทั้งภาพต้นกัญชาที่ถูกปลูกไว้บริเวณด้านหลังห้องพักนั้น

” ยืนยันว่า คุณสมบัติของกัญชาไม่ได้ออกฤทธิ์ไปในทางนั้น หากดูในภาพก็จะเห็นว่า บุหรี่กองเกลื่อน และยังมีของมึนเมาอื่นๆ อีกเยอะแยะ อย่าเพิ่งไปโทษกัญชา สิ่งที่เห็นว่าเป็นท่อนั้นก็ไม่ทราบว่าเป็นบ้องกัญชาจริงหรือเปล่า ในบ้านก็เห็นว่ามีการปลูกกัญชาอยู่ต้นเดียว และไม่รู้ว่าต้นชาที่ปลูกไว้มีอายุเท่าไหร่ ต้องดูรายละเอียดผลชันสูตร เราก็จะทราบข้อเท็จจริง ถ้าดูจากการเสพของมึนเมาจากภาพ ก็อย่าไปโทษกัญชาเลย เอาเป็นว่าเราอย่าให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีก เรื่องของการบำบัดฟื้นฟูผู้ที่มีภาวะสุขภาพจิตที่ไม่นิ่ง ก็จะต้องพยายามรักษาให้ได้มากขึ้น”

นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการที่จะให้ว่าที่ผู้สมัคร สส.ทั้ง 400 เขต ฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ นั้นยังไม่ทราบรายละเอียด โฆษกพรรคน่าจะแถลงอะไรบางอย่าง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิทธิของแต่ละคนคงจะออกมาเป็นมติพรรคไม่ได้ ใครเดือดร้อนรู้สึกว่าถูกกระทำ ละเมิดหรือไม่ถูกต้องเป็นสิทธิของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ถือเป็นมาการร่ำลาเพื่อนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ เป็นการไปมาลาไหว้ และประชุมร่วมกับเขตสุขภาพทั้ง 4 เขต ครอบคลุมทั้งภาคอีสาน เพื่อสรุปผลงานที่ทำร่วมกันมาตลอด 4 ปี ว่ามีผลการดำเนินงานอะไรที่สำเร็จแล้วตามนโยบายที่มอบไว้ หรือมีอะไรที่ยังค้างคาอยู่ และสิ่งที่จะทำต่อไป

“สำหรับเงินค่าป่วยการ อสม. ที่ เพิ่มจาก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท นั้น ถือว่าทุกคนมีความพึงพอใจ ซึ่งเมื่อเทียบกับภารกิจงานที่กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้กับ อสม.ถือเป็นสิ่งที่คุ้มค่า เพราะ อสม.ต้องทำหน้าที่เป็นหมอคนที่ 1 ของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะต้องเสียสละเวลาในการเข้ารับการฝึกฝน เรียนรู้ และสามารถเข้ารับการศึกษาในหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยสาธารณสุข ซึ่งจะทำให้มีวิชาชีพติดตัว และอีกไม่เกิน 3 ปี เราจะมีผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยสาธารณสุข ที่เป็น อสม. อยู่ทุกตำบลของประเทศไทย ที่จะดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน”

นายอนุทิน กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากนี้ อสม.ยังทำหน้าที่เป็นตำรวจเฝ้าในเรื่องไม่ให้มีการใช้ยาเสพติดในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบลต่างๆ ซึ่งถือเป็นภารกิจที่สำคัญที่มีทั้งความเสี่ยง และภารกิจในด้านการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลจากกระทรวงสาธารณสุข ให้มีคุณภาพชีวิต มีมาตรฐาน มีสุขภาวะที่ดี ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญ โดย อสม. 1 คน จะต้องดูแลประชาชน 50 คน ซึ่งจะทำให้ระบบสาธารณสุขมีความเข้มแข็ง มากยิ่งขึ้น

sXndME.png ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 DasKLf.jpg 8JER4J.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
การเปิดรับสมัคร สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว ที่หอประชุมอำเภอเมืองขอนแก่น  มีผู้สนใจมาลงทะเบียนมีจำนวนมาก
MUT KHON KAEN 2024 เปิดตัว กุญแจที่ 3 กุญแจไขความลับ เข้าสู่ มหานครขอนแก่น พร้อมแต่งตั้ง ขวัญใจเคี้ยง Super Store
MUT KHON KAEN 2024 สุดปัง อลังการ Miss Universe Khon Kaen 2024 เปิดตัว ล้ำ ทันสมัย ด้วย Motto  Khon Kaen The Metropolis Never Stop 
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มข.จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจด้านวิชาการ กับ บ.พาวเวอร์ เน็คซ์ จำกัด และรับมอบรถจยย.ไฟฟ้า ไว้ใช้ประโยชน์ 35 คัน
มข.จัดงาน “วันความดันโลหิตสูงโลก” พบคนอายุน้อยป่วยเพิ่มขึ้น เสี่ยงสุขภาพเสื่อมก่อนวัย
“มทบ.23 มอบทุนการศึกษาแก่บุตรกำลังพล”