
คนขับเก๋ง เชื่อ บารมี “หลวงปู่ทวด” ทำให้รอดตายหวุดหวิด เหตุพ่วงเทลเลอร์ขับตามจีพีเอส เกี่ยวสายไฟล้มทับรถยนต์ใจกลางเมืองขอนแก่น ขณะที่ กฟภ.ขอเวลา 3 ชม.แก้ไขระบบส่งจ่ายไฟฟ้าให้กับเขตเมือง
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 23 เม.ย. 2568 ร.ต.ท.กรกษกร ภูมิสุริยะ รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองขอนแก่น ได้ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191ว่าเกิดอุบัติเหตุ รถบรรทุกเกี่ยวสายไฟฟ้า ที่สีแยกไฟแดงถนนกลางเมืองตัดกับ ถ.ศรีจันทร์ (แยกแบงก์ชาติ) เขตเทศบาลนครขอนแก่น ห่างจาก สภ
เมืองขอนแก่นประมาณ 300 เมตร มีเสาไฟฟ้าหัก และรถยนต์ได้รับความเสียหาย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจที่เกิดเหตุทันที

เมื่อไปถึงพบว่า ทั้งสายไฟฟ้าและสายสัญญาณสื่อสารต่างๆห้อยลงมาขวางถนน โดยบริเวณหัวมุมโค้ง ถ.กลางเมือง ตัด ถ.ศรีจันทร์ มุ่งหน้า ไป รพ.ขอนแก่น พบเสาไฟฟ้าหักล้มลงมาทับ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า เอช อาร์ วี สีดำ หมายเลขทะเบียน กง-6181 มุกดาหาร สภาพรถ กระจกหน้าแตก หลังคารถยุบ มีเสาไฟฟ้าทับอยู่ที่หลังคารถ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำนายเทวิน วินิจฉัย อายุ 27 ปี คนขับ และเพื่อนที่นั่งโดยสารมาในรถ ออกมาจากรถอย่างปลอดภัย พร้อมประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ทำการตัดกระแสไฟในจุดดังกล่าวเพื่อความปลอกภัย

ใกล้กันพบรถบรรทุกเทเลอร์ หมายเลข ทะเบียนหน้า 70-0780 สระบุรี ตัวพ่วงหมายเลขทะเบียนหลัง 73 -1149 สระบุรี โดยบริเวณหางเทลเลอร์บรรทุกรถแบคโฮสภาพใหม่สีเหลือง โดยบนตัวแบคโฮ มีสายสัญญาณ พาดอยู่หลายเส้น โดยพบ มีนายบุญส่ง ฝุ่นสมบัติ อายุ40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 262 ม. 4 ต.บ้านลำ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี คนขับรถพ่วงยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น

และเร่งประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ารีบรุดมาที่เกิดเหตุและตัดสัญญาณไฟที่ผ่านเส้นทางดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่สัญจรไปมาบริเวณสี่แยกดังกล่าว
ในเวลาต่อมา นายนิพัชร์ธน แก้วกุก รองผู้จัดการด้านเทคนิค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยก็เดินทางมาถึงจุดที่เกิดเหตุ จึงประสานตำรวจและหน่วยกู้ภัยทำการปิดการจราจรและทำการปิดระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย และเร่งเก็บกู้เสาไฟที่หักโค่นลงมาตามขั้นตอน

นายนิพัชร์ธน กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถกระเช้ามายังที่เกิดเหตุทันที ซึ่งเมื่อมาถึงพบว่า สายที่เกี่ยวกับรถแมคโครนั้น เป็นสายสัญญาณของบริษัทต่างๆ ที่ติดไว้กับเสาไฟฟ้า โดยที่สายไฟฟ้าไม่ได้รับความเสียหาย พบเพียงการหย่อนลงมาต่ำเท่านั้น ในส่วนของการไฟฟ้านั้น ก็จะมีความเสียหายเฉพาะเสาไฟฟ้าที่หัก ประมาณ 30000 บาท ส่วนสายสัญญาณ ต้องเป็นเจ้าของบริษัทมาตรวจสอบเอง โดยที่การไฟฟ้าจะดำเนินเก็บกู้สายที่ตกลงมากีดขวางการสัญจรไปมาของประชาชนให้เรียบร้อยภายใน 3 ชม.

” อยากจะฝากถึงผู้ใช้รถ ใช้ถนน โดยเฉพาะรถบรรทุก ไม่ควรจะเข้ามาใช้ถนนในกลางเมืองเช่นนี้ เพราะตามกฏหมายแล้วได้กำหนดความสูงของการบรรทุกไว้ที่ไม่เกิน 4.2 เมตร แต่รถบรรทุกเทเลอร์ บรรทุกรถแมคโครสูงถึง 6 เมตร จึงสามารถเกี่ยวสายไฟฟ้าหรือสายสัญญาณได้ แต่ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่สายไฟฟ้าไม่ขาด ไม่มีการช็อต จึงไม่มีคนได้รับอันตราย ในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถเก๋งนั้น ฝ่ายคนขับรถเทเลอร์และฝ่ายรถเก๋ง ต้องไปคุยกันเอง”
ด้าน นายบุญส่ง คนขับรถบรรทุก กล่าวว่า ขับรถเทเลอร์บรรทุกรถแบคโฮ จากกรุงเทพฯ จะไปส่งลูกค้าที่จังหวัดอุดรธานี แต่การเดินทางในครั้งนี้ ได้เปิดใช้จีพีเอสในรถซึ่งมีสิริบอกเส้นทาง โดยในครั้งนี้สิริให้เลี้ยวเข้าในเมืองขอนแก่นและให้ขับตรงมาตามถนนกลางเมือง จนมาถึงสี่แยกไฟแดงดังกล่าว รถก็เกี่ยวสายไฟฟ้าและสายสัญญาณจนเกิดความเสียหายดังกล่าว
” ทุกครั้งที่เคยมา สิริจะพาไปตามถนนมิตรภาพตรงไปจนถึงอุดรธานี แต่ครั้งนี้สิริพาเข้ามาในเมืองขอนแก่น จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ได้แจ้งบริษัทฯและแจ้งประกันภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

ด้านนายเทวิน(นายพีช) วินิจฉัย อายุ 27 ปี คนขับรถเก๋งที่มีเพื่อนนั่งมาในรถด้วย เปิดเผยว่า ได้ขับรถเก๋งมาตามถนนกลางเมือง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีจันทร์เพื่อจะไปทำงาน เหมือนเช่นทุกวัน แต่ช่วงที่จะเลี้ยวซ้าย ก็มองเห็นว่า รถบรรทุกเกี่ยวเอาสายไฟฟ้ากับสายสัญญาณ บริเวณสี่แยกไฟแดงแล้ว แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับผลกระทบ จึงขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีจันทร์ ปรากฏว่า เสียงดังโครมที่หลังคารถ กระจกรถแตกกระจาย จากนั้นก็มีพลเมืองดี วิ่งมาหาบอกว่า อย่าเพิ่งแตะที่ที่เปิดประตูรถ เกรงจะถูกไฟฟ้าช็อต ต้องหาที่จับรองมือไว้ก่อน

“กระทั่งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาถึง แจ้งว่า ปลอดภัย ไม่มีไฟฟ้ารั่ว จึงออกจากรถด้วยความปลอดภัย ส่วนรถเก๋งคันที่ขับมาทำงานนั้น เป็นรถของแฟนสาว และมีประกันภัยประเภท1 ก็คงจะปล่อยให้ประกันภัยจัดการทุกอย่างเอง ส่วนตนและเพื่อนที่ห้อยหลวงปู่ทวด ต่างพากัน ยกมือท่วมหัว และเชื่อว่าบารมีและปาฎิหาริย์ของหลวงปู่ ทำให้รอดจากอุบัติเหตุในครั้งนี้”
ขณะที่ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนคนขับรถบรรทุก ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา และจะทำการตรวจยึดรถบรรทุกและรถแมคโครเอาไว้ก่อน ภายหลังการสอบสวนเสร็จสิ้น จึงจะมีการแจ้งกล่าวหาและปล่อยรถออกไป
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797







