ในบรรดาวัตถุดิบประเภท “กุ้ง” ที่นักปรุงอาหารนิยมนำไปใช้นั้น ชื่อของ “กุ้งลายเสือ” มีปรากฏเป็นเช็คลิสต์ที่ร้านอาหารต้องการนำไปสร้างสรรค์เมนูเพิ่มรายได้ด้วยอย่างไม่เคยขาด
กุ้งลายเสือ หรือที่เรียกอีกชื่อว่า กุ้งกุลาดำ เป็นกุ้งทะเลที่มีรสสัมผัสเนื้อเด้ง กรุบกรอบ มีรสชาติหวานละมุนติดลิ้น เป็นที่นิยมใช้ในการปรุงอาหารได้หลากหลาย อาทิ ต้มยำ ทำซาชิมิ บาบีคิว ซึ่งหลายคนฟันธงว่าถ้าเป็นกุ้งชนิดนี้ ต้องรับประทานแบบ Medium Rare หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ จะได้รสสัมผัสที่ดีงามมาก
โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) จึงได้เสาะหาแหล่งผลิตกุ้งลายเสือมาให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและธุรกิจโฮเรก้าได้เลือกสรร ซึ่งแหล่งเพาะเลี้ยงสำคัญของกุ้งชนิดนี้อยู่ในแถบอันดามัน โดย ภูเก็ต พังงา ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการผลิตลูกพันธุ์กุ้งกุลาดำและพ่อแม่พันธุ์คุณภาพ
นายศักดิ์สหกรณ์ คงสมุทร ซีอีโอ บริษัท ภูเก็ตกรีนชริมป์ จำกัดและประธานคลัสเตอร์ กุ้งกุลาดำไทยกล่าวว่า “ฟาร์มของเรา เลี้ยงกุ้งในระบบไบโอฟาร์ม ตามหลักปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี ด้วยการใช้สิ่งมีชีวิตและผลิตภัณฑ์จากสิ่งมีชีวิตเพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ โดยไม่ใช้ยาและสารเคมีต้องห้ามทุกชนิด อีกทั้งพื้นที่การเพาะเลี้ยงอยู่ในแถบภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยว ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้กุ้งที่ได้มีคุณภาพสูงและปลอดภัย รสชาติดี ซึ่งเราขายทั้งกุ้งเป็น และกุ้งแช่แข็ง”
กว่าจะได้กุ้งลายเสือ หรือกุ้งกุลาดำ ที่มีขนาดและเนื้อสัมผัสอย่างที่บรรดาเชฟ และร้านอาหารต้องการ ใช้เวลาในการทะนุถนอมเลี้ยงดูกว่า 5 เดือน นานกว่าการเลี้ยงกุ้งขาวทั่วไป โดยพนักงานทุกคนจะยึดถือหลักปฏิบัติ อันเป็นสโลแกนที่สำคัญของบริษัทคือ ‘กุ้งที่เราเลี้ยง เพื่อคนที่เรารัก’
“ที่มาของสโลแกน กุ้งที่เราเลี้ยง เพื่อคนที่เรารัก คือเราอยากให้กุ้งกุลาดำที่เลี้ยงเป็นกุ้งที่ครอบครัว และคนที่เรารักทุกคนสามารถนำมารังสรรค์เมนูแห่งความสุขได้แบบสบายใจ และมั่นใจได้ว่าเป็นกุ้งสดที่ดี มีคุณภาพ โดยเลี้ยงด้วยความหนาแน่นไม่สูงเกินไป เลือกสายพันธุ์กุ้งที่โตปานกลางและมีความแข็งแรง กุ้งกุลาดำของเราจะโดดเด่นในเรื่องรสชาติ และสีสัน โดยธรรมชาติขนาดของกุ้งที่โตเต็มวัยที่เลี้ยงด้วยระบบ Bio Shrimp Bio Farm จะอยู่ที่ 30-40 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม ผู้บริโภคซื้อแล้วมั่นใจได้เลยว่าเป็นกุ้งที่สุดยอด โดยสินค้าจากทางฟาร์มได้รับตราสัญลักษณ์ประมงธงเขียวจากกรมประมง เพื่อเป็นการการันตีว่าสินค้าที่เราเลี้ยงปลอดภัยจาก Antibiotic และยังรักษาสิ่งแวดล้อม”
นายศักดิ์สหกรณ์ ย้ำอีกว่า ดีใจที่กุ้งลายเสือภูเก็ตได้เปิดตลาดมากขึ้น เราอยากให้เกษตรกรมีแหล่งจำหน่ายสินค้าในราคาที่เป็นธรรม และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และโก โฮลเซลล์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยเริ่มต้นส่ง ‘กุ้งเป็น’ ขายที่สาขาราไวย์ และสาขาเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ขอบคุณที่ช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ให้มีรายได้ครับ”
ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจบริการ ที่ต้องการสรรหาวัตถุดิบหลากหลาย มีคุณภาพปลอดภัย และยังได้ช่วยเกษตรกร แวะเวียนไปดูได้ที่ โก โฮลเซลล์ ทั้ง 9 สาขา ไม่ว่าจะเป็น ศรีนครินทร์ เชียงใหม่ อมตะชลบุรี พัทยาใต้ พระราม2 รังสิต รามคำแหง ราไวย์ภูเก็ต และสาขาเมืองภูเก็ต
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ