นายอำพน กิตติอําพน องคมนตรี ในฐานะรองประธานอนุกรรมการติดตาม และขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เดินทางมาประชุม ณ เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อติดตามและรับฟังรายงานการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2567 จากนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชากรจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รายงานว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมามีปริมาณฝนตกเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำฝนในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนจะสูงกว่าเกณฑ์ปกติเล็กน้อยและมีพายุฤดูร้อนเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงระยะเวลาดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือนกันยายนมีโอกาสที่ปริมาณฝนจะสูงกว่าเกณฑ์ปกติประมาณร้อยละ 5 ควรระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจก่อให้เกิดฝนตกชุกและกระจุกตัวในช่วงระยะเวลาสั้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าป่าไหลหลากได้
ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนจุฬาภรณ์ และเขื่อนลำปาว มีปริมาณน้ำเก็บกักทั้งสิ้น 1,629 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 36 ซึ่งเป็นไปตามแผนการบริหารจัดการนำที่คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำท่าในระดับปานกลาง ทั้งนี้จากการประมาณการของกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทานได้ปรับแผนเพื่อรองรับสถานการณ์ปริมาณฝนมากกว่าปกติร้อยละ 5 เพื่อให้สามารถรองรับการจัดเก็บน้ำในฤดูฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถช่วยป้องกันอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 จะมีปริมาณน้ำเก็บกักใน 3 เขื่อนหลักที่ระดับร้อยละ 80 หรือประมาณ 3,600 – 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่เพียงพอที่จะจัดสรรน้ำให้เพียงพอต่อการใช้ในการอุปโภคและบริโภคตลอดช่วงฤดูแล้งตั้งแต่ 1พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป
ที่ประชุมเห็นว่าจากการรายงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีโอกาสที่จะเกิดผลกระทบจากฝนกระจุกตัว และน้ำท่วมฉับพลันในระหว่างเดือนกันยายนและตุลาคมซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชน จึงเห็นควรให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้มีการประสานงานระหว่างหน่วยงานเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยงานด้านความมั่นคง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมความพร้อมและแผนเพื่อรองรับกรณีเกิดอุทกภัย ให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วย เด็ก และสถานที่ราชการที่ให้บริการประชาชน เช่น โรงพยาบาล และโรงเรียนสามารถอพยพประชาชน และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวช้องในการเร่งการระบายน้ำเพื่อบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ที่มา/สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ