วันพุธ, 27 พฤศจิกายน 2567

“ครึ่งแรกปี 2566 ผลประกอบการ บจ. อ่อนตัว จากผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างมาก”

บริษัทจดทะเบียน (บจ.) รายงานผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2566 มียอดขายลดลง ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี ประกอบกับการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวสูงขึ้นในอัตราเร่ง และกดดันความสามารถในการทำกำไรของผู้ประกอบการทุกกลุ่ม  

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 764 บริษัท คิดเป็น 92.49% จากทั้งหมด 826 บริษัท (รวม SET และ mai ที่มีกำหนดส่งงบการเงิน ณ สิ้นงวด 30 มิถุนายน 2566 และไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน) นำส่งผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2566 พบว่ามี บจ. รายงานกำไรสุทธิ 577 บริษัท คิดเป็น 75.52% ของ บจ. ที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด

ผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บจ. ใน SET มียอดขาย 8,339,880 ล้านบาท ลดลง 2.8% ต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มสูงขึ้น 7.8% จากการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังโควิด ซึ่งส่งผลให้ บจ. มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) และกำไรสุทธิลดลง สำหรับฐานะการเงินของกิจการ ณ 30 มิถุนายน 2566 บจ. ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ratio (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ระดับ 1.53 เท่า ลดลงจาก 1.59 เท่าในครึ่งแรกปี 2565

หน่วย : ลบ.1H/25651H/2566% YoY
ยอดขาย8,580,6408,339,880-2.8
ต้นทุนการขาย6,591,9296,642,5490.8
กำไรขั้นต้น1,988,7111,697,332-14.7
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ880,747949,1857.8
กำไรจากการดำเนินงาน1,107,964748,147-32.5
กำไรสุทธิ622,483456,787-26.6

“ราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีให้ยอดขายและกำไรอ่อนตัวลงค่อนข้างมาก แต่หากพิจารณาธุรกิจอื่นไม่รวมธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี จะพบว่ายอดขายขยายตัวพอประมาณที่ 4.5% โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสายการบิน อย่างไรก็ดี บจ. ต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจหลากหลายปัจจัย รวมถึง ต้นทุนการผลิตที่ยืนอยู่ในระดับสูง กิจกรรมการขายที่ฟื้นตัวและมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอีกด้วย” นายแมนพงศ์กล่าว

ด้านผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) งวดครึ่งแรกปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 95,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% ต้นทุนการผลิต 71,014 ล้านบาท ลดลง 0.3% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 18,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.0% ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 5,550 ล้านบาท ลดลง 14.1% และกำไรสุทธิ 1,503 ล้านบาท ลดลง 71.0%

“SET…Make it Work for Everyone”

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 MAaG61.jpeg MB9x2v.jpeg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ MEnXPR.gif


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เศรษฐกิจอีสานทรงตัว ยอดขายรถทุกชนิดหดตัว หวังเงินจากภาครัฐช่วยกระตุ้นฯหวังนักท่องเที่ยวมาจับจ่ายช่วงไฮซีซั่น
เงินไหลเข้ากองทุนน้ำมันฯ กว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน มั่นใจดูแลราคาดีเซลในภาวะสงครามตะวันออกกลางได้ตลอดปี 2567
กระทรวงคมนาคม เดินหน้ารับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 2 ต่อแนวทางการจัดตั้งองค์กรพิเศษเพื่อกำกับการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง
คิกออฟสินเชื่อ ‘SME Green Productivity’ ดอกเบี้ยถูก 3%ต่อปี SME D Bank
สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับสถาบันการเงินและภาคีเครือข่ายกว่า 10 แห่ง จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยแก้หนี้
รัฐบาล เร่ง ออมสิน ช่วยลดภาระหนี้ครู ขับเคลื่อนแก้หนี้อย่างยั่งยืน ประกาศลดดอกเบี้ยกลุ่มครูผ่อนดีเป็น 1% ต่อปี เป็นเวลา 6 เดือน เริ่ม ก.ค. นี้