
จากกรณีที่นางหนูนา คะนึงนึก อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 ม.1 บ้านนาดอกไม้ ต.หนองบัว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น อาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพังกับสุนัขคู่ใจ โดยมีเพียงหลานชายทำงาน หาเลี้ยงมาหลายปี ก่อนที่นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รอง ผวจ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรืองนี่ เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 3 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของนางหนูนา พบว่า จุดที่ตั้งเตาถ่าน นึ่งข้าวมีการจัดพื้นที่ตั้งเตาให้สูงขึ้น พื้นบ้านก็เทพื้นใหม่พื้นเรียบกว่าเดิม และบริเวณทางลงไปยังหนองน้ำหลังบ้าน มีการปรับปรุง ทำทางเดินที่มีบันไดและรวมจับทั้งสองข้าง น้ำก็ใช้น้ำประปาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บ้านก็มีประตู หน้าต่างและสามารถล็อคกุญแจได้ด้วย

นางหนูนา กล่าวว่า ตั้งแต่ คณะเหล่ากาชาดจังหวัดและ รอง ผวจ.ขอนแก่นมาเยี่ยม ก็มีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น และไม่ต้องหิ้วถัง ไปตักน้ำที่หนองน้ำหลังบ้านอีกแล้ว เพราะลูกเขยต่อน้ำประปามาให้ใช้ ส่วนทางลงไปที่หนองน้ำหลังบ้าน นายอำเภอก็นำเจ้าหน้าที่มาทำทางลงเป็นบันไดให้เดินได้สะดวก แต่คงไม่ได้มาตักน้ำแล้ว เพราะมีน้ำประปาใช้ ส่วนบ้านก็มีประตู หน้าต่างเป็นที่เรียบร้อย รู้สึกว่าตัวเองมีความปลอดภัยมากขึ้น และเจ้าหน้าที่บอกห้ามเปิดเด็ดขาด

” ส่วนเรื่องตา แพทย์ที่รพ.บ้านฝางตรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่า เป็นต้อกระจก ซึ่งขณะนี้ตาข้างซ้ายที่พร่ามัว เคยพอรู้กลางวันกลางคืนนั้น ตอนนี้มืดสนิท มองไม่เห็นแสง ทำให้ก่อไฟนึ่งข้าวเหนียวยากลำบากมาก เพราะเมื่อจุดไฟแช็คแล้วต้องใช้ยางในรถยนต์มาต่อไฟไปจุดที่เตาถ่าน โดยไม่รู้ว่ายางติดไฟหรือไม่ และไฟที่เตาลุกหรือไม่ ต้องใช้มือคลำที่เตา ทำให้ไฟไหม้ที่มือ และไม่สามารถทำอาหารกินเองได้ จึงแก้ปัญหาตะโกนเรียกหลานที่อยู่อีกฝากถนนมาช่วยก่อฟืนให้”

ยายหนูนา กล่าวต่ออีกว่า พลเมืองดีที่เป็นชาวบ้านที่เป็นพ่อค้า ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ตระเวนขายกับข้าวตามหมู่บ้าน ที่เคยเอาอาหารมาส่งทุกเช้าก็ไม่มาแล้ว เพราะหลังจากที่คณะของรอง ผวจ.ขอนแก่น มาเยี่ยม พ่อค้ารายดังกล่าวก็พามารดามาหาที่บ้าน พร้อมกับเล่าให้ฟัง ถูกนายอำเภอ ถูกเจ้าหน้าที่ต่อว่าในเรื่องถ่ายคลิปยายลงโซเชียล โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ บอกว่าเป็นคนหัวหมอมาช่วยยาย ส่วนยายก็โดนด่าเหมือนกัน
“ด่ายายไม่ได้เรียนหนังสือเหรอ ถึงทำแบบนี้ ซึ่งนายอำเภอเป็นคนด่ายาย และยังบอกอีกว่า ทำไมยายไม่แจ้งก่อน ทำไมปล่อยให้คนอื่นถ่ายรูปไป ซึ่งยายก็ไม่รู้จักจริงๆนั่นแหละว่าเขาจะถ่ายรูปไปทำอะไร บอกว่ายายขอถ่ายรูป ยายก็บอกว่าถ่ายก็ถ่ายสิ แต่นายอำเภอบอกว่าทีหลังต้องให้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านกำนันก่อน ก่อนจะให้คนอื่นมาถ่าย ซึ่งยายก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องผิดแค่มาถ่ายรูป ยายมองว่าเป็นเรื่องแค่นิดหน่อย พ่อค้ารายดังกล่าว จึงไม่กล้ามาช่วยเหลือยายอีก และนับจากวันนั้น พ่อค้าก็ไม่มาอีกเลย มีเพียงหลานชายที่มาดูแลแล้วก็ต้องกลับไปทำงาน”

นางหนูนา กล่าวต่ออีกว่า ยายมองว่ายายไม่ได้ผิด แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่ายายผิด ว่ายังไปให้ข่าวนักข่าวพาดหัวข่าวจนเสื่อมเสียชื่อเสียงคนรู้ไปทั่วประเทศ ทำให้เกิดความเสียหายไปถึงผู้ใหญ่หลายคน และยังบอกว่าผู้ว่าฯโทรมาด่านายอำเภอ และที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมาดูแลสักครั้งหรอก พอมีข่าวก็มากันหมดทุกหน่วยงาน แต่ก็ต้องขอบคุณทางเทศบาลฯที่ดูแลมาตั้งแต่ไฟไหม้บ้านสร้างบ้านให้และช่วยเหลือหลายเรื่องมาตอลด ส่วนเรื่องการตรวจสุขภาพที่รพ.บ้านฝาง พบว่า ร่างกายมีโรคเบาหวาน หอบหืด ภูมิแพ้ ส่วนเรื่องตา หมอที่รพ.บ้านฝาง แจ้งว่าตาเป็นต้อกระจก ต้องรอคิวอีกประมาณ 1-2 เดือน จึงจะนัดไปตรวจตาซ้ำอีก เพื่อพิจารณาในการผ่าตัดรักษาตาต่อไป






