พ่อค้าแตงโมฮึดสู้ ปรับกลยุทธ์สู้ตลาดจีน ยอมสู้ราคา ทุก ชม. หวังได้สินค้ามาจำหน่ายในพื้นที่ ขณะที่ราคาจำหน่ายปรับขึ้นลูกละ 10 บาทหลังผลผลิตน้อยและยอดส่งออกเยอะขึ้น ต้องปรับขนาดการำหน่ายในราคาเท่าเดิม
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ตลาดรถไฟขอนแก่น ยังคงมีเกษตรกรชาวสวนผลไม้ รวมไปถึงพ่อค้า-แม่ค้า และประชาชนในพื้นที่ทยอยกันมาเลือกซื้อผลไม้ในชนิดต่างๆกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ทำให้บรรยากาศการซื้อ-ขาย ผลไม้ที่ตลาดค้าส่งและค้าปลีผลไม้รายใหญ่ของภาคอีสานตอนกลางนั้นคึกคักอย่างมาก โดยมีรถขนส่งผลไม้จากสนผลไม้ทั่วประเทศทยอยกันนำส่งผลผลไม้ให้กับพ่อค้าและแม่ค้าตามการสั่งซื้อตลอดทั้งวัน แต่ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าในช่วงอากาศร้อนอย่างนี้คงหนีไม่พ้นแตงโม ที่ลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อไปเพื่อจำหน่ายหรือรับประทานในครอบครัว เนื่องจากแตงโมสดใหม่หวานฉ่ำเมื่อนำไปแช่เย็นแล้วจะดับกระหายคลายร้อนได้อย่างดีทีเดียว
นายณรงค์ ภูผาทอง เจ้าของร้านพ่อขุนแผนแตงโมตลาดรถไฟขอนแก่น กล่าวว่า ยอมรับว่าในช่วงนี้แตงโมนั้นมีผลผลิตที่น้อย เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งและหนาวนานจึงทำให้แตงโมออกผลผลิตได้น้อยมาก ในขณะที่การสั่งซื้อภายในประเทศนั้นมีมากขึ้น ทั้งยังคงต้องส่งจำหน่ายไปต่างประเทศอีก ทำให้ร้านจำหน่ายแตงโม ต้องเฝ้าติดตามราคาจากพ่อค้าคนกลาง หรือล้ง และจากสวนแตงโม เพื่อให้ได้แตงโมมาจำหน่าย ซึ่งร้านนั้นจำหน่ายแตงโมพันธุ์กินรี และซอนญา สัปดาห์นี้ได้แตงโมมาจากสกลนคร ในขณะที่จากสวนแตงดมภาคเหนือและภาคกลางนั้นของขาดตลาดหรือมีก็ถูกกว้านซื้อไปจนหมด
“ เมี่อของมีน้อยและการสั่งซื้อในและต่างประเทศมีเยอะ จึงทำให้แตงดมนั้นปรับราคาขึ้นตามกลไกของตลาด เฉลี่ยแล้วปรับขึ้นถึงลูกละ 10 บาท หากนับรวมตั้งแต่ราคาหน้าสวน ราคาล้ง ราคาขนส่ง และราคาขนลง ซึ่งลูกค้าที่ชื่นชอบการรับประทานแตงโมก็เข้าใจว่าแตงโมช่วงนี้จะราคาแพง เพราะร้านมีการพูดคุยกับลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านค้าปลีกที่ซื้อไปปลอกจำหน่าย ซึ่งเมื่อของมีราคาแพง จึงต้องมีการปรับขนาดการจำหน่ายลงแต่คงราคาเดิม อย่างวันนี้ก็จะใส่ถุงจำหน่าย 3 ลูก 200 บาท,4 ลูก 200 บาท,หรือขนาดเล็กสุดก็จะอยู่ที่ 4 ลูก 120 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ลูกค้ารับได้และยังคงมาเลือกซื้อสินค้าที่ร้านก็ก็ซื้อน้อยลง”
ขณะที่นายณจาวิทย์ ทัตหิรัญรัตน์ ผู้จัดการตลาดรถไฟขอนแก่น กล่าวว่า ราคาแตงโม เคยปรับราคาสูงขึ้นเฉพาะไซค์ใหญ่คือลูกละประมาณ 70 บาทแต่ก็เมื่อ 2 ปีมาแล้ว แต่ปีนี้การปรับราคาขึ้นมีมาตั้งแต่เดือน ม.ค.จนถึงวันนี้และราคาปรับขึ้นและลงทุก ชม. เนื่องจากการส่งออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนมีมากขึ้น ร้านค้าในประเทศจึงต้องติดตามผลผลิตทั้งจากสวนแตงโม และจากล้ง แต่ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนราคาก็จะปรับลง เนื่องจากผลผลิตจะเยอะขึ้นและแตงโม ตลาดที่จากสวนที่เกษตรกรนำมาขายข้างทางก็จะมีมากขึ้น ราคาแตงโมพันธุ์ก็จะถูกลง ซึ่งถือเป็นไปตามกลไกของตลาดที่พ่อค้า แม่ค้า และลูกค้าผลไม้นั้นเข้าใจและรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวเป็นประจำทุกปี อย่างไรก็ตามตลาดยังคงเน้นย้ำในเรื่องมาตรฐานความสะอาด ความปลอดภัยและสุขอนามัย รวมไปถึงในเรื่องของการติดป้ายราคาสินค้า การสุ่มตรวจตราชั่ง หรือผลผลิตต่างๆเพื่อให้เกิดความมั่นใจให้กับลูกค้าเมื่อมาเลือกซื้อผลไม้ที่ตลาดรถไฟจะครบและจบในที่เดียว
