วันพุธ, 27 พฤศจิกายน 2567

“ไทยยืนหนึ่งเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนจาก S&P Global โดย 12 บริษัทอยู่ในระดับ Gold Class มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก”

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยบริษัทไทยติดอันดับด้านความยั่งยืนใน The Sustainability Yearbook 2023 จากการประกาศผลของ S&P Global จำนวน 37 บริษัท โดยในจำนวนนี้มีบริษัทไทยได้รับการจัดอันดับในระดับ Gold Class 12 บริษัท มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก สะท้อนการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนและตอกย้ำความเชื่อมั่นในสายตาผู้ลงทุนทั่วโลก

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนธุรกิจให้บูรณาการแนวทางความยั่งยืนในการดำเนินงาน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social, Governance: ESG) เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจและประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนไทยเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยจำนวนมากอยู่ในดัชนีความยั่งยืนระดับสากลทั้ง MSCI, FTSE และ S&P Global อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่ความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการพัฒนาตลาดทุนเพื่อทุกภาคส่วน “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone”

“ล่าสุด การประกาศ The Sustainability Yearbook 2023 โดย S&P Global บริษัทไทยได้รับการจัดอันดับในระดับ Gold Class จำนวน 12 บริษัทได้แก่ AWC, BJC, BTS, HMPRO, PTTGC, SCC, SCGP, TOP, TRUEE, TU, VGI และ ThaiBev ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก สะท้อนถึงความโดดเด่นของธุรกิจไทยเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันจากทั่วโลก ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอชื่นชมความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนไทย ทั้งนี้ S&P Global เป็นผู้จัดทำดัชนีที่ผู้ลงทุนทั่วโลกใช้ในการวิเคราะห์และพิจารณาตัดสินใจลงทุน การได้รับจัดอันดับจะสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ทำให้บริษัทอยู่ในสายตาของผู้ลงทุนทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมี 5 บริษัทจดทะเบียนไทยที่เป็น Industry Mover คือมีพัฒนาการโดดเด่น มีคะแนนการประเมินความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งได้แก่ AWC, CRC, SCGP, VGI และ WHA ด้วย” นายภากรกล่าว

ทั้งนี้ S&P Global ได้ประเมินความยั่งยืนบริษัททั่วโลก 7,822 บริษัท โดยมี 710 บริษัทที่ได้รับการประกาศใน The Sustainability Yearbook 2023 ในจำนวนนี้เป็นบริษัทไทย 37 บริษัทซึ่งมากเป็นอันดับ 5 ของโลก การประกาศยังแบ่งการจัดอันดับเป็น 4 ระดับ ได้แก่ Gold, Silver, Bronze และ Member โดยระดับ Gold Class มีบริษัทไทย 12 บริษัท ลำดับที่สองคือสหรัฐอเมริกา 11 บริษัท ลำดับสามคือไต้หวันและอิตาลี 7 บริษัท

ในปีนี้ S&P Global ได้เพิ่มเกณฑ์การคัดกรองด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้นสอดคล้องกับแนวทางการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ โดยจะไม่ประกาศรายชื่อบริษัทในอุตสาหกรรมยาสูบ (Tobacco) และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงที่มาจากถ่านหิน (Coal & Consumable Fuel) ใน The Sustainability Yearbook 2023 ทั้งนี้ รายชื่อบริษัทดังกล่าวจะถูกนำไปคัดเลือกเพื่อเข้าสู่ดัชนีด้านความยั่งยืนต่างๆ ของ S&P Global ทั้ง Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) และ S&P ESG Index Family ต่อไป

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณา ติดต่อนิตยา สุวรรณสิทธิ์-0628929797 DasKLf.jpg 8JER4J.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เศรษฐกิจอีสานทรงตัว ยอดขายรถทุกชนิดหดตัว หวังเงินจากภาครัฐช่วยกระตุ้นฯหวังนักท่องเที่ยวมาจับจ่ายช่วงไฮซีซั่น
เงินไหลเข้ากองทุนน้ำมันฯ กว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน มั่นใจดูแลราคาดีเซลในภาวะสงครามตะวันออกกลางได้ตลอดปี 2567
กระทรวงคมนาคม เดินหน้ารับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 2 ต่อแนวทางการจัดตั้งองค์กรพิเศษเพื่อกำกับการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง
คิกออฟสินเชื่อ ‘SME Green Productivity’ ดอกเบี้ยถูก 3%ต่อปี SME D Bank
สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับสถาบันการเงินและภาคีเครือข่ายกว่า 10 แห่ง จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยแก้หนี้
รัฐบาล เร่ง ออมสิน ช่วยลดภาระหนี้ครู ขับเคลื่อนแก้หนี้อย่างยั่งยืน ประกาศลดดอกเบี้ยกลุ่มครูผ่อนดีเป็น 1% ต่อปี เป็นเวลา 6 เดือน เริ่ม ก.ค. นี้