วันพุธ, 11 ธันวาคม 2567

ยกระดับอุตสาหกรรมโดรนเพื่อการเกษตร ผ่านการสนับสนุนโครงการ “1 ตำบล 1 ดิจิทัล (ชุมชนโดรนใจ) One Tambon One Digital” สร้างระบบนิเวศทางดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก

วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นผลักดัน ให้เกิดการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลด้านการเกษตร (Digital Agriculture) เพิ่มทักษะทางดิจิทัลให้กับเกษตรกรไทย สร้างระบบนิเวศดิจิทัลให้สมบูรณ์ พร้อมสนับสนุนการดำเนินโครงการ “1 ตำบล 1 ดิจิทัล (ชุมชนโดรนใจ) One Tambon One Digital” ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีโดรนเพื่อการเกษตร ในกระบวนการเพาะปลูกและดูแลรักษาพืช เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทักษะอาชีพใหม่ให้แก่ช่างซ่อมโดรนชุมชน สร้างอาชีพใหม่ สร้างรายได้เพิ่ม ยกระดับการเกษตรกรรมของประเทศสู่สังคมดิจิทัล
 
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากแนวนโยบาย The Growth Engine of Thailand เครื่องยนต์ใหม่ของประเทศไทย ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัล สร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ (Thailand Competitiveness) การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Safety & Security) รวมถึงการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัลของประเทศ (Human Capital) พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรและชุมชนไทยประยุกต์นำเทคโนโลยีนวัตกรรมดิจิทัลมาใช้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงในโลกอนาคต 
 


ทั้งนี้ ทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินโครงการ “1 ตำบล 1 ดิจิทัล (ชุมชนโดรนใจ) One Tambon One Digital” ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีโดรนเพื่อกิจการทางการเกษตร เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต ซึ่งเป็นโดรนที่ผลิตในประเทศไทยและ ผ่านการรับการรับรองมาตรฐาน dSURE นอกจากนี้ยังส่งเสริมการพัฒนาความสามารถและองค์ความรู้ ด้านการซ่อมโดรนเพื่อการเกษตรให้ช่างในชุมชน เช่น ช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงช่างอื่นๆ สู่การเป็นช่างซ่อมโดรนเกษตรในชุมชน เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพ พัฒนาทักษะดิจิทัล ยกระดับภาคเกษตรของไทยด้วยเทคโนโลยีโดรน โดยตั้งเป้าหมายภายในระยะเวลา 1 ปี เกิดศูนย์ซ่อมโดรนเพื่อการเกษตรทั่วประเทศ 50 ศูนย์ เกิดการใช้งานโดรน 500 ชุมชน หรือกว่า 10,000 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมรวมทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านไร่
 
ทั้งนี้ โดรนเพื่อการเกษตรสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดระยะเวลาการทำงาน ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยสำนักงานฯ ยังมีการอนุมัติศูนย์ซ่อมโดรนเพื่อการเกษตรไปแล้ว จำนวน 35 แห่ง แบ่งเป็น ภาคเหนือ 8 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 แห่ง ภาคกลางและภาคตะวันตก 5 แห่ง ภาคตะวันออก 2 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่ง รวมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาทักษะการบิน การออกใบอนุญาต และการพัฒนาเทคโนโลยีโดรนเพื่อการเกษตร ที่ดำเนินงานร่วมกับภาคเอกชน รวมถึงการพัฒนาระบบฝึกอบรมโดรนที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนาทักษะนักบินโดรนและช่างซ่อมบำรุงโดรน ซึ่งคาดว่าตลอดทางโครงการจะก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 20,000 ล้านบาท
 
“นอกจากนายกรัฐมนตรีจะให้ความสำคัญกับราคาผลผลิตการเกษตรแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้การดำเนินกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร จะสามารถช่วยลดเวลา ต้นทุนค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตต่อไร่ พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดอาชีพใหม่จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ซึ่งการสร้างระบบนิเวศทางดิจิทัลนี้ จะ พัฒนาทักษะ สร้างรายได้ให้แก่พี่น้องเกษตรกร และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศด้วย” นายชัย กล่าว

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 7003315842a3e5554.jpeg tz01.jpeg 2_07b2fa84021c11013.jpeg sm02.jpeg green-white-background06.jpeg cropped-kk0012-scaled-3.jpeg ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ radio20766.gif


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เผย สถิติแจ้งความออนไลน์ 1 – 31 กรกฎาคม 67 มูลค่าความเสียหายรวม 3,471,379,963 บาท 
ปักหมุดพัฒนาสตาร์ทอัพไทย สนับสนุนการจัดงาน STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2024 : SITE 2024
กรมการจัดหางาน เร่งขยายผลขบวนการนำพาคนหางานเก็บผลไม้ป่าฟินแลนด์ผิดกฎหมาย ย้ำขณะนี้ยังชะลอจัดส่งแรงงานไทยทำงานเก็บผลไม้ป่า
รัฐบาลเดินเครื่องยนต์ภาคการท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ขยายวีซ่าฟรีเพิ่มเป็น 60 วัน สำหรับ 93 ประเทศ
รัฐบาลยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพทั่วประเทศ มีผลบังคับใช้แล้ว 140 แห่ง
รัฐบาลห่วงใยครูและบุคลากรทางการศึกษา จัดทำประกันอุบัติเหตุให้ฟรี จ่ายสูงสุด 1 แสน เชิญชวนครูและบุคลากรทางการศึกษาลงทะเบียนรับสิทธิ์ประกันอุบัติเหตุ