เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 มิ.ย.2567 ที่สำนักงาน กกต.ขอนแก่น ได้มีผู้สมัคร สว.จากหลายกลุ่มที่ไม่ผ่านการเลือกระดับจังหวัด เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อคัดค้านกรณีภายหลังจากทราบผลคะแนนการเลือก สว.ระดับจังหวัดเมื่อวานที่ผ่านมา (16 มิ.ย.) หลังพบว่ามีผู้สมัคร สว.มีคะแนนเป็น 0 เนื่องจากไม่ลงคะแนนให้ตัวเอง ขัดต่อเจตนารมณ์ตามหลักรัฐธรรมนูญ ที่ผู้สมัคร สว.ทุกคนมีความตั้งใจตั้งแต่วันแรกที่จะเข้ามาเพื่อได้รับเลือกทำหน้าที่ สว.ในสภา ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นการส่อเจตนาไปในทางทุจริต ในเรื่องของการจัดตั้งกลุ่มการเมือง หรือการฮั้วเกิดขึ้น
นายพัชระ บัวแพง ผู้สมัคร สว.กลุ่ม 15 กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน กล่าวว่า ผลการเลือก สว.ระดับจังหวัดออกมาแล้วพบว่า มีคนไม่ลงคะแนนให้ตัวเอง หรือมีคะแนนเป็นศูนย์มากถึงกว่า 20 คน จากจำนวนผู้สมัคร สว.ในกลุ่มนี้ที่ผ่านเข้ารอบในระดับจังหวัดทั้งหมดจำนวน 35 คน และคะแนนสูงโดดตั้งแต่ระดับอำเภอเพียงผู้เดียวเป็นครูประถมศึกษา ซึ่งส่วนตัวเป็นผู้สมัครอิสระ และทุกคนที่เป็นผู้สมัครอิสระต่างไม่ผ่านในระดับจังหวัดซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา
“การกระทำดังกล่าวเป็นไปในลักษณะที่โจ่งแจ้งจนเกิดความสงสัยขึ้นมา ทั้งนี้ส่วนตัวได้ตั้งข้อสังเกตุว่าน่าจะมีการฮั้วกัน โดยมี 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.ผู้สมัคร สว.ทั้ง 35 คนที่ผ่านเข้ามาในระดับอำเภอ มีอาชีพครูเป็นส่วนใหญ่ 2.ผู้ที่ได้รับเลือกเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกระดับจังหวัดก็คือกลุ่มครูและมีคะแนนสูโดดกว่าเพื่อน และข้อ 3 มีผู้ที่ได้คะแนนเป็นศูนย์คือไม่เลือกลงคะแนนให้ตัวเองกว่า 20 คน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่น่าจะเป็นความบังเอิญ น่าจะมีการฮั้วกันเกิดขึ้น จึงได้มาร้องคัดค้านกับทางกกต.ตามสิทธิ์ เพื่อให้ทาง กกต.ได้สืบสวนหาข้อเท็จจริงและชี้แจงต่อประชาชน เพื่อความโปร่งใส ทั้งนี้ส่วนตัวไม่มีพยานหลักฐานเป็นผู้สมัครอิสระไม่มีกลุ่มฮั้ว คนที่มาแบบกลุ่มอิสระตกรอบกันหมด การมีพรรคพวกก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่เป็นการกระทำที่โจ่งแจ้งและไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
ขณะที่ นายวัชระ สีสาร ผอ.สนง.กกต.ขก. กล่าวว่า การร้องเรียนเป็นไปตามสิทธิ์ที่สามารถทำได้ โดยทาง กกต.ก็จะนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามขั้นตอน โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการเลือก สว.ระดับประเทศ โดยการทักท้วงนั้นจะมี 2 ลักษณะ คือระหว่างนับคะแนน เชช่นบัตรนี้บัตรดีบัตรเสีย และทักท้วงขึ้นมา และอีกลักษณะคือหากผลคะแนนอกมาแล้วมีการทักท้วง เป็นการผ่านการดำเนินการไปแล้ว ทั้งกรณีไม่ได้คะแนน คะแนนโดด หรือคะแนนเป็นศูนย์ ซึ่งระเบียบจาก กกต.มีการระบุไว้ชัดเจน โดยจะมีการตรวจสอบและดำเนินการตามคำร้องเป็นรายๆไปจนครบทุกกรณี การทักท้วงระหว่างการนับคะแนนนั้นของขังหวัดขอนแก่นเองยังไม่มี แต่จะเป็นภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ทำการนับคะแนนจนแล้วเสร็จ และเห็นผลเป็นภาพรวมแล้ว ในคำร้องจะมีการใช้คำร้องว่าสงสัยทั้งหมด โดยทุกคำร้องจะมีการตรวยสอบอีกครั้งตามขั้นตอนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
“กรณีที่ร้องเกี่ยวกับผู้สมัครไม่ลงคะแนนให้ตัวเองนั้น ด้วยกฎหมายการเลือก สว.นั้น รอบแรกสามารถลงได้ 2 หมายเลข ลงให้ตัวเองก็ได้ แต่ให้คะแนนคนอื่นเกิน 1 ไม่ได้ เมื่อเข้ารอบไปแล้วมองเห็นว่าคนอื่นมีคุณสมบัติดีกว่าตัวเองก็สามารถนำไปเลือกคนอื่นได้ 2 หมายเลขซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้สมัครเองไม่ถือว่าทำผิด เพราะมีระบุในระเบียบการเลือก สว.เอาไว้อย่างชัดเจนทั้งหมด ในเรื่องที่ร้องเรียนนั้นส่วนใหญ่เป็นเรื่องของคุณสมบัติ โดยเป็นการร้องว่าลงผิดกลุ่ม เช่นเป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางอาชีพ สามารถลงได้หลายกลุ่ม เมื่อมาลงรับเลือกที่มีผู้สมัครในกลุ่มบางกลุ่ม ทำให้คนอื่นๆมองว่าเป็นการขาดคุณสมบัติได้ หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐาน ว่าเกี่ยวข้องขนาดไหน การไม่ลงคะแนนให้ตัวเองนั้นเห็นว่าคนอื่นมีคุณสมบัติดีกว่าตังเองหรือไม่ หรือมีการฮั้วกันเกิดขึ้น ซึ่งจะต้องดูที่หลักฐานว่าจะเชื่อมโยงกันหรือไม่”
นายวัชระ กล่าวต่ออีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) คือวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินนั้น เป็นการร้องในเรื่อง พรบ.ประกอบการเลือก สว. ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเจตนารมณ์การเลือกตามหลักรัฐธรรมนูญนั้นก็ต้องเลือกตัวเองเพราะได้สมัครเข้ามาขอรับเลือก แต่พรบ.เลือก สว. ระบุว่าเลือกคนอื่นได้ไม่เลือกตัวเองก็ได้ อย่างไรก็ตามขอนแก่นการดำเนินการเลือก สว.ทุกระดับเป็นไปด้วยความเรียบร้อยครบถ้วน โดในวันที่ 22 มิ.ย. ผู้ที่ผ่านการรับเลือกในระดับจังหวัดจะต้องมารับเอกสารจากทาง กกต. เป็นหนังสือแนะนำตัว (สว.3) ทั่วประเทศ 77 จังหวัด เพื่อดูประกอบการพิจารณาในการเลือกระดับประเทศต่อไป
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ