วันที่ 13 มิถุนายน 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการให้บริการสุขภาพกับประชาชน ทั้งการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ การเชื่อมโยงข้อมูล และบูรณาการบริการสาธารณสุขแบบครบวงจร ผ่าน “นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค” ที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุขอย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน ลดภาระค่าใช้จ่ายสุขภาพทางอ้อม เช่น ค่าเดินทาง ค่าเสียโอกาสรายได้ รวมถึงลดความแออัดในโรงพยาบาล
นายคารม กล่าวว่า การทำให้บรรลุเป้าหมายและเกิดประสิทธิผลตามนโยบายได้นั้น นอกจากการดำเนินการในส่วนภาครัฐแล้ว ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชนร่วมสนับสนุนอย่างความร่วมมือโครงการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงนวัตกรรมบริการสาธารณสุขฯ รัฐบาล โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงนวัตกรรมบริการสาธารณสุขสำหรับประชาชน” ซึ่งจะเป็นความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การพัฒนาการบริการสาธารณสุขเชิงรุกของประเทศ ผ่านรูปแบบบริการต่าง ๆ เกิดการดูแลสุขภาพประชาชนอย่างครบวงจรที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป
นายคารม กล่าวต่อไปว่า โครงการฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้คลินิกเอกชนที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการกับ สปสช. เป็นหน่วยนวัตกรรมบริการสาธารณสุข ร่วมให้บริการใน “สถานีบริการน้ำมันบางจาก” โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาร่วมให้บริการ อาทิ ระบบการแพทย์ทางไกล การตรวจคัดกรองสุขภาพผ่านแอปพลิเคชัน เป็นต้น ทำให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองฯ ได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพและมาตรฐานทางวิชาชีพ ทั้งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยจุดบริการที่ตั้งอยู่ในสถานีบริการน้ำมันมีความสะดวกและเข้าถึงได้ง่าย นับเป็นความร่วมมืออันดีอย่างยิ่งจากภาคเอกชนที่ร่วมเป็นพันธมิตร ถือเป็นการยกระดับผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขในสถานีบริการ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาและคำปรึกษาจากแพทย์ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ