วันที่ 9 กรกฎาคม 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน รายการเงินอุดหนุนรายบุคคล ในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู สำหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เห็นสมควรให้หน่วยรับงบประมาณพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณหรือโอนเงินจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2562 ในโอกาสแรกก่อน โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า ผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ ๆ ไป เห็นสมควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป สำหรับการอุดหนุนเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก กรณีโรงเรียนเอกชนที่มีนักเรียนไม่เกิน 200 คน เป็นเวลา 4 ปี (เดือนพฤษภาคม 2567 ถึงเดือนกันยายน 2570) เห็นสมควรให้กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการศึกษาจากการที่เคยได้รับความช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็กตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2550 ว่ามีการพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด เพื่อให้คณะรัฐมนตรีรับทราบก่อนเสนอมาตรการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวอีกครั้ง นอกจากนี้การกำหนดขนาดโรงเรียน เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ควรใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อให้การจัดกลุ่มขนาดโรงเรียนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นายคารม กล่าวว่า การปรับอัตราเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน รายการเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครูสำหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยปรับฐานเงินเดือนครูในการคำนวณเงินอุดหนุน จากอัตรา 15,050 บาท เป็นอัตรา 18,150 บาท ภายในระยะเวลา 2 ปี เริ่มดำเนินการเดือนพฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ตามแนวทางการปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาพื้นฐาน รายการเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครูซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (26 มิถุนายน 2550) ที่อนุมัติหลักการให้การอุดหนุนเป็นเงินรายหัวนักเรียนโรงเรียนเอกชนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู โดยมีการปรับเพิ่มเงินสมทบเป็นเงินเดือนครูได้ในกรณีปรับเพิ่มในอัตราเดียวกันกับการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติเห็นชอบการปรับเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินอุดหนุนสมทบเป็นเงินเดือนครูโรงเรียนเอกชนเพิ่มรวมทั้งสิ้น 9 ครั้ง ในช่วงปี 2547-2560 (คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560) และเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (28 พฤศจิกายน 2566) ที่เห็นชอบการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิเพิ่มขึ้นทุกคุณวุฒิ ซึ่งผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับปริญญาตรีจะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท ภายใน 2 ปี ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงเห็นควรปรับเพิ่มเงินสมทบเป็นเงินเดือนครูเพื่อให้ครูในโรงเรียนเอกชนได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าวุฒิที่ทางราชการกำหนดเพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีข้างต้น รวมทั้งขออนุมัติการอุดหนุนเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก (จำนวนนักเรียนไม่เกิน 200 คน) ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 ถึงเดือนกันยายน 2570 และมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการศึกษาแนวทางการให้ความช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนขนาดเล็กที่มีความเหมาะสมต่อไป รวมทั้งขอความเห็นชอบในหลักการให้ใช้งบประมาณสำหรับดำเนินการดังกล่าว โดยมีรายละเอียดอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลที่ปรับเพิ่ม สรุปได้ ดังนี้
1. การปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานรายการเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู
หน่วย : บาท/คน/ปี
ระดับชั้น | ระยะที่ 1 (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567) | ระยะที่ 2 (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568) | รวม 2 ระยะ |
(1) โรงเรียนเอกชนทั่วไปประเภทสามัญศึกษาและประเภทอาชีวศึกษา [ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)] (อัตราส่วนครูต่อนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษา/ประถมศึกษา 1 ต่อ 25 คน และระดับมัธยมศึกษาและระดับ ปวช. 1 ต่อ 20) | |||
(1.1) ระดับก่อนประถมศึกษา-ประถมศึกษา | 696.00 | 792.00 | 1,488.00 |
(1.2) ระดับมัธยมศึกษาและ ปวช. | 870.00 | 990.00 | 1,860.00 |
(2) เงินอุดหนุนเพิ่มเติมจากเงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชนทั่วไปเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก (มีการปรับอัตราโดยการเพิ่มสัดส่วนครูต่อนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษา/ประถมศึกษา จาก 1 ต่อ 25 คน เป็น 1 ต่อ 16 คน และระดับมัธยมศึกษาและระดับ ปวช. จาก 1 ต่อ 20 คน เป็น 1 ต่อ 16) | |||
(2.1) ระดับก่อนประถมศึกษาและประถมศึกษา | 391.50 | 445.50 | 837.00 |
(2.2) ระดับมัธยมศึกษาและ ปวช. | 217.50 | 247.50 | 465.00 |
2. งบประมาณเพื่อใช้สำหรับปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคล
หน่วย : ล้านบาท
ปีงบประมาณ พ.ศ. | แหล่งเงินงบประมาณ | โรงเรียนเอกชนทั่วไปประเภทสามัญศึกษาและประเภทอาชีวศึกษา (ระดับ ปวช.) | โรงเรียนเอกชนขนาดเล็ก | รวม |
2567 (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2567) | งบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2567 | 655.81 | 21.10 | 676.91 |
2568 (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567-กันยายน 2568) | งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | 2,320.22 | 74.65 | 2,394.87 |
2569 เป็นต้นไป (เป็นงบประมาณที่คาดว่าจะขอเพิ่มเติมเพื่อปรับฐานเงินเดือน จาก 15,050 บาท/เดือน เป็น 18,150 บาท/เดือน) | ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เป็นต้นไป สำหรับโรงเรียนเอกชนทั่วไปและปีงบประมาณ พ.ศ. 2569-2570 สำหรับโรงเรียนเอกชนขนาดเล็ก) | 3,365.00 | 108.26 | 3,473.26 |